การเกรดสีเป็นงานหลักของดาวิชีรีโซฟ แต่ Blackmagic Design ก็ยังเพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจเข้ามาเสมอๆ
เวอร์ชัน 17 ได้นำเสนอเครื่องมือใหม่ๆ เช่น Color Warper ที่เป็นอีกขั้นนึงที่มากไปกว่าการเกรดสีพื้นฐานและคอนทราสเคิร์ฟ แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ขนาดนั้นเพราะจริงๆ แล้วก็มีเครื่องมืออื่นที่ทำงานได้อยู่แล้ว นั่นสิ...แล้วทำไมเราต้องเรียนรู้ของใหม่นี้ด้วย
อเล็กซ์ จอร์แดน ให้คำตอบเกี่ยวกับเครื่องมือ Color Warper ในดาวินชีรีโซฟ 17 คือ การช่วยให้เราทำงานในส่วนนี้เพื่อการทำงานที่เร็วขึ้น
จอร์แดน ชี้ให้เห็นว่า ปกติแล้วเครื่องมือใหม่ๆ ในดาวินชีรีโซฟมักจะเป็นฟังก์ชันใหม่ๆ แต่ Color Warper เป็นเพียงวิธีการจัดการกับสิ่งใหม่ๆ ที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว เรามีเครื่องมือที่ใช้ปรับ hue, ความสว่าง, ความอิ่มสี และอื่นๆ อยู่แล้ว แล้วทำไมต้องมี Color Warper เพิ่มขึ้นมานะ?
จอร์แดนบอกว่า Color Warper เป็นเครื่องมือที่ควบคุมทั้ง hue และ saturation ได้ด้วยจุดเพียงจุดเดียว หมายความว่าเราสามารถทำได้ทั้งสองอย่างในคราวเดียวกันซึ่งเร็วกว่าการใช้เครื่องมืออื่นที่ต้องทำแยกกัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามันเร็วกว่าแล้วทำไมเราจะไม่ลองใช้มันเพื่อให้งานดีขึ้นหล่ะ?
ก่อนหน้านั้น การเปลี่ยนและปรับสีอาจจะใช้เครื่องมือ curve ทำงานให้ จอร์แดนได้สาธิตไว้ได้ง่ายมาก ให้ดูพล๊อตของเคิร์ฟ Hue Vs Hue ของสีแดงที่เลือกไว้และเลื่อนไปด้านบนเพื่อเปลี่ยนสี
เพื่อเปลี่ยน saturation เราต้องย้ายไปที่ Hue Vs Saturation ต่อ และสำหรับความสว่างก็ต้องไปที่ Hue Vs Luminance อีกทีนึง ถ้ามีเครื่องมือสักตัวที่รวบขั้นตอนพวกนี้ไว้เพียงหนึ่งเดียวก็คงจะเป็นการประหยัดเวลาในการเปลี่ยนเครื่องมือไปมาได้มาก
แค่คลิ้กจุดสีแดงเพียงครั้งเดียวก็สามารถปรับทิศทางเพื่อการปรับเปลี่ยนทั้ง saturation และ hue จากพล๊อตสีแดง นอกจากนั้นในเครื่องมือเดียวกันยังสามารถควบคุมแสงเพื่อการปรับความสว่างมืดได้ด้วย ทั้งสามอย่างนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ในเครื่องมือชิ้นเดียว ถึงตอนนี้เข้าใจหรือยัง?
อีกอย่างที่ Color Warper ช่วยประหยัดเวลาได้มากเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เคิร์ฟ ก็คือ วิธีการเลือกสี ที่เราจะต้องเลือกสีในทุกๆ พาแนลของเคิร์ฟที่เราต้องการใช้งาน แต่ Color Warper เราเพียงแค่เลือกจุดที่เราต้องการง่ายๆ เพียงคลิ้กเดียว
ดังนั้น ความเร็ว เป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องการใช้งานฟังก์ชัน Color Warper ในการเกรดสี ทำงานงานเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงยังเป็นประสบการณ์ใหม่กับของเล่นใหม่อีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว เราจะเริ่มลองใช้ Color Warper กันหรือยัง?
Shawn Steiner
January 13, 2021
จากเว็บไซต์ www.4Kshooters.net
เพิ่มเติมจากผู้แปล
A bit more from Yuwarat Chanawongse
Color Warper แตกต่างกับเครื่องมือทำงานอื่นๆ อย่างไร
Color Warper เป็นเครื่องมือใหม่เอื่ยมที่มากับดาวินชีรีโซฟ เวอร์ชัน 17 ที่สามารถทำงานกับ saturation, hue และ brightness ได้ในคราวเดียวกัน แต่ก็นะ จริงๆ แล้วรีโซฟก็มีเครื่องมือตัวอื่นอยู่แล้วที่สามารถทำงานได้คล้ายๆ กัน
วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ Color Warper กับเครื่องมือทำงานอื่นๆ ที่รีโซฟมีให้อยู่แล้ว
เริ่มจาก Qualifier
Qualifier เป็นเครื่องมือ secondary ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว การทำงานกับ qualifier ก็เริ่มจากการ qualify หรือเลือกส่วนที่ต้องการทำงาน แล้วก็ใช้การปรับ hue ได้จาก primary wheels, ปุ่ม hue ใต้พาเลต และปุ่ม saturation ใต้พาเลตเมื่อต้องการเพิ่มหรือลดความอิ่มสี
ข้อดี ของการใช้ quailfier คือ การเลือกพื้นที่ทำงานได้แน่นอน และเฉพาะมากกว่า Hue หรือ Warper
ส่วนข้อจำกัด ก็คือ ถ้าเราต้องการปรับ brightness ในเครื่องมือตัวนี้ อาจจะเกิด bubble noise ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดขึ้นได้
Curve
Curve เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือปรับแสงและสี มีหกอย่างคือ Custom curve, Hue Vs Hue, Hue Vs Sat, Hue Vs Lum, Lum Vs Sat และ Sat Vs Sat
ข้อดี ของเคิร์ฟ ก็คือ ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย ไม่ทำให้เกิด Bubble noise เหมือน Qualifier และเป็นเครื่องมือที่คุ้นเคย
ข้อจำกัด คือ ต้องสลับทำหลายพาแนล ถ้าต้องการเปลี่ยนทั้ง hue, sat และ brightness อีกทั้งยังเลือกส่วนที่ต้องการทำงานได้ไม่แน่นอน อาจจะมีผลกับส่วนอื่นที่ไม่ต้องการด้วย
Color Warper
เครื่องมือใหม่ล่าสุดในดาวินชีรีโซฟ 17 ที่เป็นกราฟรูปใยแมงมุม แสดงส่วนที่เป็นภาพด้วยส่วนขาวในกราฟ เลือกการทำงานด้วยการกำหนดจุดบนกราฟรูปใยแมงมุม
ข้อดี ประหยัดเวลา เพราะสามารถปรับทั้ง hue, sat และ luminance ได้ในกราฟเดียว ไม่ต้องสลับไปมาเหมือน curve และไม่เกิด bubble noise effect เหมือน qualifier
ส่วนข้อจำกัด คือ เลือกขอบเขตของสีที่ต้องการทำงานที่แน่นอนได้ยากกว่า qualifier และถ้าผู้ใช้ไม่แม่นทฤษฎีสีแล้ว การปรับเปลี่ยนบน warper. นี้อาจจะยากเกินไป เมื่อถึงเวลาต้องคอนทินิวกับชอตอื่นๆ ต่อไป
แน่นอน เครื่องมือทุกตัวล้วนมีข้อดี ข้อจำกัด และข้อควรระวังในการใช้งาน ผู้ใช้งานโปรแกรมควรฝึกฝนใช้เครื่องมือให้ถนัด เพื่อให้หน้างานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่พอใจของลูกค้า
ยุวรัตน์ ชนะวงศ์
22 กรกฏาคม 2564
Comments