top of page
Writer's pictureyuwarat chanawongse

REDLOGFILM กับ REDGAMMA

Updated: Dec 15, 2022




REDlogFilm และ REDgamma เป็น options ใน REDCINE-X PRO® ที่ใช้แปลงสัญญาณค่าดิจิทัลเป็นโทนสีที่มองเห็นได้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีการตั้งค่าแกมม่าเหล่านี้เพื่อทำงาน และวิธีอื่นๆ รวมถึงวิธีที่ช่วยให้ขั้นตอนโพสต์โปรดักชันง่ายขึ้น ไม่ว่าจะใช้กับเดลี่ด่วนๆ หรือภาพยนตร์ที่ต้องการความละเอียดละเมียดละไมก็ตาม






Redgamma4














Redlogfilm















BACKGROUND: LOG VERSUS LINEAR LIGHT

กล้องดิจิตอลวัดแสงเป็นลีเนียร์ : การเพิ่มแสงขึ้นสองเท่าจะสร้างประจุที่เซ็นเซอร์ขึ้นอีกสองเท่า ซึ่งจะทำให้ค่าตัวเลขที่บันทึกในข้อมูล RAW เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ถึงจะดูเหมือนเป็นมาตรฐานและสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่ใช่วิธีการทำงานของดวงตา ภาพยนตร์ หรือวิดีโอ เมื่อดวงตาของเราได้รับแสงเป็นสองเท่า เราจะรับรู้ว่านี่เป็นการเพิ่มความเข้มของเศษส่วนเท่านั้น ในทางคณิตศาสตร์ สิ่งนี้อธิบายว่าเป็นการรับรู้แบบลอการิทึม:



หมายเหตุ: กราฟด้านบนแสดงให้เห็นว่าความเข้มของแสงอินพุตแปลงอย่างไร เมื่อทำตามลูกศรสีน้ำเงิน คุณจะเห็นว่าค่าอินพุต (แสดงในแนวนอน) ถูกแปลงเป็นค่าเอาต์พุตอย่างไร (แสดงในแนวตั้ง) การแปลงนี้เรียกว่าทำผ่าน "curve สี" หรือ "look-up table" (LUT)


สำหรับกล้อง "แกมมา" คือสิ่งที่ระบุความสัมพันธ์แบบ non-linear และไม่เป็น logarithm curve แบบที่แสดงด้านบนเสมอไป แต่มีคุณภาพใกล้เคียงกันมากและมีความแตกต่างน้อยกว่า เมื่อข้อมูล RAW จากเซ็นเซอร์กล้องถูกแปลงเป็นไฟล์อื่นๆ ทั่วไป ค่าตัวเลขจะถูกแปลจากเส้นตรงเป็นเส้นโค้งในกระบวนการที่เรียกว่า การเข้ารหัสแกมมา (gamma endoding)


เป้าหมาย คือ การกำหนดโทนสีให้ใกล้เคียงกับการตาเห็น ในการใช้ข้อมูลเซนเซอร์เชิงเส้น(linear) ค่าตัวเลขจะถูกกำหนดให้กับสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นไฮไลท์มากกว่าส่วนเงา ในทางตรงกันข้าม ไฟล์ที่เข้ารหัสด้วยแกมมา สามารถระบุเงาได้อย่างแม่นยำพอๆ กับไฮไลท์:


หมายเหตุ: แม้จะบันทึกข้อมูลแบบเชิงเส้น แต่ไฟล์ RAW ยังคงรักษาข้อมูลส่วนใหญ่ไว้ การเข้ารหัสแกมมา (gamma encoding) มีไว้เพื่อการรักษารายละเอียดโทนสีสูงสุดเป็นหลัก เมื่อ bit depth ถูกจำกัดให้เป็นไฟล์มาตรฐาน



วิธีนี้ช่วยให้ DPX, TIFF และไฟล์เอาต์พุตอื่นๆ เก็บสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากค่าตัวเลขทั้งหมดมีรูปแบบที่เข้าใจได้ และยังทำให้ไฟล์แก้ไขง่ายขึ้น เนื่องจากเครื่องมือของโพสต์โปรดักชันมักจะได้รับการออกแบบให้ทำงานกับไฟล์ที่เข้ารหัสด้วยแกมมา




REDGAMMA4 เพื่อผลลัพธ์ทันใจ

การตั้งค่าแกมมาของ RED® อาจประกอบด้วย curve สีอื่นๆด้วย เพื่อให้ภาพมีช่วงการทำงานที่เป็นที่พึงพอใจและคุ้นเคยเหมือนฟิล์ม REDgamma4 และการตั้งค่าที่คล้ายกันคือผลลัพธ์สุทธิของทั้ง log curve มาตรฐานและ contrast curve:



contrast curve ทำให้เงาและไฮไลท์เป็นภาพขาวดำที่น่าพอใจ และปรับปรุงคอนทราสต์และ saturation ทำให้มิดโทนมองเห็นชัดเจนขึ้น ภาพจะโดดเด่นขึ้นจากการมองเห็นเป็นสามมิติมากขึ้น








without contrast curve












with contrast curve





ดังน้ัน REDgamma4 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและใช้การเกรดสีน้อยที่สุด เป็นทางออกที่ดีเมื่อต้องการความเร็วในการทำเดลี่และฟุตเทจเดโมอื่นๆ ให้ทันเวลา


ในทางกลับกัน contrast curve มีความเฉพาะตัวมากกว่า standard curve เช่นเดียวกับสต็อกภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่มีลักษณะเฉพาะตัว กล้องรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แพ็คเกจซอฟต์แวร์ หรือบริษัทผู้ผลิตต่างก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ลุคที่ต้องการกำหนดอาจขึ้นบนทางสายกลาง ความคิดสร้างสรรคและองค์ประกอบของฉากด้วย หรือ ลุคที่ต้องการอาจทำให้ขั้นโพสต์โปรดักชันซับซ้อนขึ้น หากนำไปใช้ก่อนการเกรดสีหรือทำเอฟเฟ็กต์โดยทีมงานอื่น หากสิ่งเหล่านี้สำคัญ ก็ยังมีตัวเลือกอื่น . .




REDLOGFILM สำหรับการเกรดสีจริงจัง


REDlogFilm เป็นจุดเริ่มต้นมาตรฐานมากขึ้นสำหรับการเกรดสี เนื่องจากให้ log curve แบบดั้งเดิมเท่านั้น curve นี้จะจำลองรูปแบบการสแกนฟิล์ม Cineon ซึ่งจะทำนายผลลัพธ์ได้ด้วย LUT ที่กำหนดเองและซอฟต์แวร์อื่นๆของโพสต์โปรดักชัน REDlogFilm ยังสามารถแปลงกลับเป็นไฟล์ linear อย่างง่ายดายเมื่อต้องการทำเอฟเฟกต์ คอมโพสิต และ matrix transformations ตามที่ต้องการ


เวิร์กโฟลว์ของ REDlogFilm โดยทั่วไปรวมการแปลงไฟล์ลีเนียร์ REDCODE® RAW (R3D) ให้เป็นไฟล์มีเดีย ดิจิทัลมาตรฐานได้หลายแบบ โดยใช้ REDCINE-X PRO หรือซอฟต์แวร์อื่นๆ จากนั้น ผลลัพธ์สามารถใช้ร่วมกับ post-production house และทีมงานอื่นๆ ทั้งหมดที่คุ้นเคยกับไฟล์ Cineon ผลลัพธ์สุดท้ายได้รวมการไล่ระดับสีที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่โดยใช้ gamma encoding:




อย่างไรก็ตาม ภาพ REDlogFilm ในตอนแรกจะ flat ส่วนเงาสว่างและมีนอยส์มาก พร้อมด้วยส่วนดำไฮไลท์ที่สูงขึ้นฉับพลัน สีจะคงอยู่ในช่วงไดนามิกทั้งหมดและจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีนอยซ์มากนัก แม้ว่าจะแสดงผลต่างกันก็ตาม

REDlogFilm ไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับการแสดงภาพในกล้อง



ดังนั้นจึงควรใช้ REDlogFilm เฉพาะเมื่อคาดว่าไฟล์จะได้รับการเกรดสี ซึ่งอาจต้องใช้คัลเลอร์ลิสต์และทีมโพสต์โปรดักชันที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงหรือเหนือกว่าที่สามารถทำได้โดยตรงจากกล้องด้วย REDgamma4 อย่างไรก็ตาม สำหรับทีมที่คุ้นเคยกับการสแกนฟิล์มการเกรดจากฟิล์มสแกน REDlogFilm ได้รับการออกแบบมาให้เร็วและง่ายขึ้น


ข้อควรพิจารณาอื่นๆ:

ในทางปฏิบัติ สามารถระบุแกมมาได้ ทั้งจากในกล้องและจาก REDCINE-X ไม่ว่าในกรณีใด การตั้งค่าจะถูกฝังเป็นข้อมูลเมตาและไม่ส่งผลต่อข้อมูลที่บันทึกไว้จนกว่าไฟล์ R3D® จะถูกแปลงเป็นรูปแบบอื่น หากมีการใช้ gamma curve ที่ใหม่กว่า ไฟล์ R3D เหล่านี้สามารถปรับใหม่ได้โดยใช้ color science ตัวใหม่ล่าสุด



อย่างไรก็ตาม มีออฟชันทั้งสำหรับโพสต์โปรดักชันในทีม ไม่ว่าจะเป็นงานเดลี ภาพนิ่ง หรือโปรเจ็กต์ส่วนตัว สามารถส่ง REDgamma4 ได้ง่ายและเร็วเหมือนกล้อง DSLR ภายในทีมเดียวกัน

ส่วนการทำงานร่วมกับภายนอกไม่ว่าจะเป็น vusual effects หรือ โพสต์โปรดักชันภายนอก หรือเมื่อมี LUTs ที่สร้างขึ้นเอง สามารถพัฒนาได้โดยใช้มาตรฐาน Cineon REDlogFilm ที่ให้ความคุ้นเคยกับฟิล์มที่สแกน แต่มีความยืดหยุ่นทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ






100 views0 comments

Comentários


bottom of page